รีวิวเกาะพยาม ไปช่วงไหนดี 2023
รีวิวเกาะพยาม ไปช่วงไหนดี 2023(Review Koh Phayam 2023, When should we go to this island and worth it )
ทริปเกาะพยามจังหวัดระนอง เป็นครั้งแรกที่เดินทางไปเกาะนี้ ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า สถานการณ์ที่นั่นจะเป็นอย่างไร แก้ไปตามสถานการณ์เลยก็แล้วกัน เกาะพยาม รีวิวในโลกโซเชียลที่เป็นจุดเด่นมากๆ และการตลาด คือโรงแรมบลูสกายรีสอร์ท (Blue Sky Resort) เกาะพยาม ที่ขนานนามว่า มัลดีฟล์ เมืองไทย แต่การจัดทริปในครั้งนี้ผู้เขียน ไปทริปที่จองโรงแรมที่หน้าหาดค่ะ ในสไตล์เที่ยวด้วยและสำรวจด้วย ต้องบอกว่าทริปนี้ได้ประสบการณ์ใหม่ ที่ไม่เคยเจอ เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังค่ะ อยากจะให้ฉายาใหม่กับเกาะนี้ ว่า “เกาะพยายาม” ที่อยากให้นักเดินทางที่ชอบท่องเที่ยวพยายามมาเกาะนี้ ก่อนที่ความเจริญของเกาะนี้ กำลังจะเข้ามา
ชื่อนิกา นะคะ (ผู้เขียน) เดินทางไปเกาะพยาม หลายวันแล้วค่ะ แต่มีความรู้สึกที่อยากจะแชร์ทริปนี้ เชื่อว่าหลายๆคนอาจจะเห็นโปรโมทเกาะพยามที่ดูสวยงามในโลกโซเชียล แต่นิกาจะเล่าประสบการณ์อีกแบบหนึ่งที่แตกต่างออกไปในแบบฉบับของนิกา และเป็นเอเจนทร์ท่องเที่ยว ต้องสำรวจเกาะซะหน่อย ไหนไหน ก็ไปแล้ว
สิ่งแรกที่นึกถึงเกาะพยายม ก็เห็นในโปรโมทว่าเป็นมัลดีฟล์เมืองไทย เกือบทุกคนก็จะนึกถึงบลูสกายรีสอร์ทแต่ค่าที่พักค่อนข้างสูงสำหรับนิกา เลยจองห้องพัก ที่ราคาพอสู้ไหว ติดหน้าหาดก็โอเคแล้ว วางแผนกันหน่อยคือ ยานพาหนะ ทริปนี้นิกาเช่าเป็นรถยนต์ 4 วัน เดินทางไปกับเพื่อนอีกคน ที่ตัดสินใจเช่ารถยนต์ คิดว่าการเดินทางในครั้งนี้ ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า หกชั่งโมง ที่รวมแวะจอดพัก และต้องการความสะดวกมากกว่า (อายุเยอะ ขอความสะดวกเป็นหลัก ฮ่า ฮ่า)
ออก หกโมงเช้าจากภูเก็ต ถึงท่าเรือเกาะพยาม (ฝั่งทางจังหวัดระนอง)ประมาณ 12.30 น. เมื่อไปถึงท่าเรือที่จังหวัดระนอง แน่นอนค่ะคนที่เช่ารถมา ต้องหาที่รับเช่าจอดรถ ซึ่งใกล้ท่าเรือจะมีที่รับเช่าจอดรถ วันที่เดินทางเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวไม่เยอะ เลยได้ที่จอดรถใกล้ท่าเรือมาก วันละ 100 บาท
แถวท่าเรือก็จะมีร้านอาหารเล็กๆ ถึงก็สั่งอาหารเที่ยงก่อนเพราะ หิวมากๆๆ ร้านค้า ร้านอาหาร แถวท่าเรือ จะไม่ค่อยเยอะเท่าไรนัก หลังจากนั้น เตรียมตัวรอเรือรอบ 13.00 น. ตั๋วเรือที่นี่ 350 บาท ต่อท่านขาไป ขากลับก็ราคาเดียวกัน ขึ้นเรือสปีดบ็ทเรียบร้อย พร้อมเตรียมตัวออกเดินทางได้ แต่เดี๋ยวก่อน!!! สิ่งที่ไม่คาดคิด สามารถเกิดขึ้นได้ งานเข้าแล้วสิ!! เรือสตาร์จไม่ติด!! รอเกือบชั่วโมงถึงได้เดินทาง ปกติเราใช้เวลาในการเดินทางจากท่าเรือฝั่งระนอง ไปถึงเกาะพยามแค่ 40 นาที
ถึงเกาะพยามความรู้สึกถึงการพลุ่กพล่านของผู้คนน้อยมาก หรืออาจจะเป็นเพราะมาในช่วงเดือนพฤษภาคม เป็นเดือนที่เข้าสู่ฤดูฝนนักท่องเที่ยวเริ่มน้อยลง เลยสอบถามผู้ประกอบการที่นั่นถ้าเป็นช่วงเดือนธันวาคม-มีนาคมนักท่องเที่ยวจะเยอะ ที่พัก มอเตอร์ไซต์ให้เช่าเต็มหมดเลย นักท่องเที่ยวมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
เกาะพยามที่เริ่มเป็นที่รู้จักกันมากคือ การขนานนามเป็นมัลดีฟส์เมืองไทย โรงแรมที่โดดเด่นที่สุดต้องยกให้ บลูสกายรีสอร์ท (Blue Sky Resort) ที่ถ่ายทอดความเป็นธรรมชาติ และออกแบบบรรยากาศสไตล์มัลดีฟล์การเดินทางของนิกาในครั้งนี้ จองโรงแรมธรรมดา ติดหาดแทน เพื่อประหยัดงบที่มีนะคะ ฮ่า ฮ่า ที่พักที่เราจองคือ เซเด บูติค รีสอร์ท (Cede Boutiqe Resort) อยู่หาดอ่าวใหญ่ ห้องพักค่อนข้างบรรยากาศดีค่ะ นั่งเล่นหน้าหาดแบบชิลๆ แต่อย่าชิลตอนเช้า เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังค่ะ งานนี้มีคัน!!
เรื่องยานพาหนะที่นี่อย่างมอเตอร์ไซต์ ถือเป็นสิ่งจำเป็น หรือบางคนต้องให้ทางโรงแรมมารับที่ท่าเรือเกาะพยามไปส่งที่โรงแรมได้ แต่เวลาเราจะออกเดินทางไปข้างนอกโรงแรม ก็จะค่อนข้างลำบาก นิกาเลยตัดสินใจเช่ามอเตอร์ไซต์ ตั้งแต่วันแรก สัมภาระที่ถือมาก็ไม่เยอะ สามารถหิ้วไปกับมอเตอร์ไซต์ได้ ราคาเช่ามอเตอร์ไซต์ 200 บาท ต่อวัน
ที่เกาะพยาม บรรยากาศโดยรวม ค่อนข้างเงียบค่ะ เป็นเหมือนหมู่บ้านเล็กๆ รถประจำทางไม่มี แทกซี่เรียกได้เฉพาะจุด อย่างหน้าท่าเรือเกาะพยาม หรือให้ทางโรงแรมเรียกให้ ผู้คนที่นี่แบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม คือคนไทย ชาวยิปซีหรือชาวมอแกน ชาวพม่าที่เข้ามาใช้แรงงานที่เกาะพยาม และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยู่แบบนานมากเป็นส่วนใหญ่ หรือนักท่องเที่ยวที่ต้องการความเงียบสงบที่เกาะแห่งนี้ และนักท่องเที่ยวขาจรอย่างที่นิกามาพักผ่อนสามคืนที่เกาะพยาม
ในการเดินทาง เป็นเหมือนกันมั๊ยคะ ว่าเราจะนึกถึงสถานที่ที่หนึ่งคือ ร้านสะดวกซื้อ ที่เกาะพยามไม่มีเซเว่นที่เรานิยมกันใช้บริการกัน จะมีแต่ร้านค้าขายของชำทั่วไปของชาวบ้าน ค่อนข้างเยอะเหมือนกันหาไม่ยาก ลองจิตนาการเมื่อใดก็ตาม ที่เกาะพยามเจริญเติบโตเหมือนอย่างหลายๆ เกาะ เช่น เกาะพีพี บรรยากาศร้านขายของชำ อาจจะน้อยลงแน่นอน
Tips : แนะนำ ในเกาะพยามร้านค้าเยอะ บางอย่างก็ไม่มี หากอะไรที่จำเป็นสำหรับเราเตรียมสิ่งจำเป็นก่อนมาถึงเกาพยามก็ดีนะคะ
กิจกรรมที่นี่ เดือนที่มาคือเดือนพฤษภาคม 2023 เห็นนักท่องเที่ยวเล่นเซิร์ฟบอร์ดกันค่ะ ที่หน้าหาด อ่าวใหญ่ หรือจะเป็นกิจกรรมเที่ยวรอบเกาะ หรือจะเป็นกิจกรรมดำน้ำที่เกาะใกล้ๆ เกาะพยาม อย่างเกาะสุรินทร์ นิกากับเพื่อนเลือกเช่ามอเตอร์ไซต์แล้วขับชมวิวรอบเกาะ ความรู้สึกในการขับรอบเกาะตอนกลางวันก็จะอุดมไปด้วย ป่า ฮ่า ฮ่า ต้นมะม่วงหิมพานต์ ต้นยางพารา ถนนบางเส้นทางก็ค่อนข้างเล็ก ไหน ๆ ก็มาที่เกาะพยามแล้ว จึงลองขับรถเล่นตอนกลางคืน ฮืมมมม!!!
บรรยากาศตอนกลางคืนต้องบอกว่า หลอน ฮ่า ฮ่า!!! ใช่ค่ะมันคือเรื่องจริง ไฟตอนกลางคืนบนถนนจะไม่มี ถ้ามีก็ไฟจากชาวบ้าน ที่เปิดไว้หน้าบ้าน และไฟสาธารณะจะมีบางจุดเท่านั้น หรืออาจจะเป็นเพราะเรามาช่วงหน้าโลซีซัน (Low Season)ก็เป็นได้ค่ะ ช่วงนักท่องเที่ยวเยอะอาจจะอีกบรรยากาศหนึ่ง แต่ที่แน่ๆ ไม่ค่อยมีไฟสาธารณะ ทำให้การจราจร ต้องใช้ความระมัดระวัง เป็นพิเศษในตอนกลางคืน
มาพูดถึงอาหารกันดีกว่า อาหารเช้า นิกาจองโรงแรมรวมอาหารเช้า โรงแรมก็จะเป็นอาหารเช้าแบบเซ็ตอาหาร เช่น อาหารเช้าแบบอเมริกัน (American Breakfast) หรือ เมนูอาหารไทย อย่าง กะเพราราดข้าว หรือเป็นข้าวต้ม ส่วนอาหารเที่ยง อาหารเย็น เราก็ไปรับประทานที่ร้านอาหาร
แบบแรก คือร้านอาหารทั่วไปแบบบ้านๆ อาหารตามสั่ง ราคาไม่แพง แบบที่สองเป็นร้านอาหารตามหน้าหาดหรือที่โรงแรม ก็จะได้บรรยากาศอีกแบบ เวลาไปรับประทานอาหารค่ำ แนะนำก่อนพระอาทิตย์ตก จะดีที่สุดหากไปรับประทานอาหารข้างนอกโรงแรม อย่างที่บอกถนนที่นั่นแทบไม่มีไฟส่อง เราอาจจะหลงทางกลับได้ ฮ่า ฮ่า
การเดินทางในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้พบเจอ นั่นคือ “ริ้นทะเล”เยอะมากค่ะ ด้วยความที่เราไม่รู้ ตอนเช้าประมาณ 06.30 น.ก็เอาเสื่อไปปูนั่งหน้าหาดกับบรรยากาศ ตอนเช้า ช่างบรรยากาศดีและสดชื่นเหลือเกิน ไม่มีคนเดินเลย แต่ทันใดนั้น ตัวเล็กๆ เหมือนแมลงหวี่ ก็รุมตอมตามขาและแขน ความรู้สึกนั้น มันคือแมลงหวี่ แน่นอน
เราก็ยังคงชื่มชมความสวยงามและบรรยากาศตอนเช้า สักพักเริ่มคัน แต่ยังไม่เอะใจอะไร พอมารับประทานอาหารเช้า เลยถามพนักงานที่โรงแรม บอกว่า “ตัวนั้นแหล่ะคือ ริ้นทะเล” อืมม… ยังไม่รู้อีก ก็ลองค้นหาชื่อนี้ในออนไลน์ ดูคืออึ้งไปเลยที่นี้ ที่อึ้งคือ คันมากแทบนอนไม่ได้เพราะตัวริ้นกัดเยอะมาก ด้วยความไม่รู้ อย่าหาทำ! ไปนั่งตอนเช้า อาจจะโดนกัดอย่างนิกาได้หรือป้องกันหน่อยฉีดน้ำไคร้หอมไล่ยุง น่าจะช่วยได้ค่ะ
ที่เกาะพยามยังไม่คอยเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนัก อาจจะเป็นเพราะการคมนาคม ยังไม่สะดวกเท่าไร นัก อย่างการเดินทางโดยเครื่องบินที่บินตรงต้องเดินทางจากกรุงเทพเท่านั้นเพื่อที่จะมาลงที่สนามบินจังหวัดระนอง หรือการเดินทางจากภูเก็ตไปจังหวัดระนอง หากใช้บริการรถสาธารณะสอบถามเบื้องต้น ต้องขึ้นรถบัสจากภูเก็ต ไปลงที่เขาหลักก่อน
หลังจากนั้นจากเขาหลักมาที่จังหวัดระนองในตัวเมือง แล้วต้องเรียกแทกซี่มาส่งที่ท่าเรือเกาะพยามฝั่งระนอง ค่อนข้างหลากหลายขั้นตอน หรืออีกวิธีหนึ่งที่นิกา เลือกคือเช่ารถยนต์ แล้วเดินทางออกจากภูเก็ตแต่เช้าถึงเกือบเที่ยงครึ่ง หากเลือกเดินทางแบบที่สองค่าใช้จ่ายเยอะหน่อยแต่เอาความสะดวก
ในส่วนของเดือนที่อยากแนะนำมาท่องเที่ยวเกาะพยาม เป็นช่วงฤดูการท่องเที่ยวจะดีกว่า คือเดือนธันวาคม-เดือนมีนาคม แต่ต้องวางแผนในเรื่องการจองล่วงหน้าอย่างโรงแรม ถ้าหากจะเช่ามอเตอไซต์ก็จองล่วงหน้าจะดีกว่า หรือแม้แต่เช่าที่จอดรถใกล้ท่าเรือฝั่งระนองเช่นกัน ส่วนเดือนในช่วงหน้าฝนมาเที่ยวได้ค่ะ แต่จะเงียบมาก หากใครที่ชอบแบบบรรยากาศเงียบสงบ ช่วงหน้าฝนก็น่าเที่ยวสำหรับคุณ
อีกไม่นานที่เกาะพยามจะเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากขึ้น ความเปลี่ยนแปลง การพัฒนาเกาะพยามแห่งนี้ จะเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนและเชื่อว่าความสวยงามของเกาะพยาม ที่ยังรอนักเดินทางสายท่องเที่ยวธรรมชาติ ให้มาสัมผัสสักครั้งในชีวิต
Writer : Better Call Nika
Comments