ความล้ำหน้าและฉลาดของเอไอ(AI)ศัตรูที่น่ากลัวของมนุษย์ในอนาคต
- Better Call Nika
- 29 เม.ย. 2566
- ยาว 2 นาที
อัปเดตเมื่อ 3 ก.ย. 2566
(Advanced and clever AI will be a formidable enemy of humanity in the future)

AI (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ)ที่ให้คำนิยมกัน มนุษย์เราเริ่มรู้จัก AI พร้อมกับเราเริ่มรู้จัก อินเตอร์เน็ต เรียนรู้และสะสมข้อมูลต่างๆ เรื่อยมา และเริ่มเข้ามามีบทบาท โดยเฉพาะพื้นที่ ที่มีความเจริญเติบโตของเมืองต่างๆ ทั่วโลกที่อาจจะปฏิเสธเอไอ แทบไม่ได้
เมื่อความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจเข้ามา ปัญญาประดิษฐ์(AI)ก็เข้ามามีบทบาทมากขึ้นเช่นกัน อย่างการทำธุรกิจต่างๆ ที่ได้หาวิธีการ ที่จะตอบโจทย์ผู้บริโภคให้รู้สึกสะดวกสบายและรวดเร็วขึ้น โดยอาศัยปัญญาประดิษฐ์เข้าถึงธุรกิจมาตอบสนองความต้องการของมนุษย์ การยอมรับที่จะใช้ เอไอก็มากขึ้นเช่นกัน เมื่อเราเกิดความเคยชินและยอมรับ มนุษย์ เราเริ่มสร้าวสรรค์สิ่งใหม่ขึ้นเรื่อยๆ ค่อยๆสร้าง ในคอนเซ็ปการยอมรับเพื่อสร้างความเคยชิน นำไปสู่การสร้างสรรค์ สิ่งใหม่ต่อไป

ผู้เขียนจำความได้เกี่ยวกับ ปัญญาประดิษฐ์(AI)เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา ผู้เขียนเรียนคณะบริหารธุรกิจ จะมีสาขาเกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซ (E-commerce)มีชั่วโมงหนึ่งที่ไม่ได้เรียนบรรยายในห้องเรียน แต่อาจารย์ ให้ชั่วโมงนั้นดูภาพยนต์เรื่องหนึ่งชื่อ A.I. Artificial Intelligence (ตัวอย่างภาพยนต์ : https://www.youtube.com/watch?v=_19pRsZRiz4) ภาพยนต์เรื่องนี้ ตราตรึงมาตลอดว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเรามีหุ่นยนต์ หุ่นยนต์ที่เราเห็นนั้นก็มาจากหนังแนวไซไฟ(Sci-fi Movie)หรือภาพยนต์ในโลกอนาคต นี่อาจจะเป็นจุดประกายเริ่มต้นมาจากการคิด สร้างสรรค์ มาจากภาพยนต์ ที่ต่อยอดให้กับมนุษย์เราต้องการให้ความแปลกใหม่นั้นเกิดขึ้นเรื่อยมาในโลกใบนี้ หรือมนุษย์เราเสพติดความแปลกใหม่ที่ไม่มีสิ้นสุด

ความหมายของ AI หลายๆ บทความต่างให้ความหมาย ของ AI ที่คล้ายๆ กัน อย่างบทความหนึ่งผู้เขียนเห็นว่าน่าสนใจ ใจความว่า
“AI ย่อมาจาก Artificial Intelligence คือ ปัญญาประดิษฐ์ โปรแกรมที่ถูกเขียนและพัฒนาให้มีความฉลาด มีความสามารถคิด วิเคราะห์ วางแผน และตัดสินใจได้ จากการประมวลผลของฐานข้อมูลขนาดใหญ่ และยังสามารถดัดแปลงการประมวลผล ประยุกต์ ให้เป็นไปตามสถานการณ์ต่างๆ”
อ้างอิงจาก : https://www.tnnthailand.com/news/tech/12718/

และอีกหนึ่งบทความ ที่ให้ความหมายของ AI เช่นกันใจความว่า
“AI ย่อมาจากคำว่า Artificial Intelligence แปลเป็นไทยก็ “ความฉลาดที่มีการสร้างขึ้นมา” หรือตามที่เคยได้ยินก็คือ ปัญญาประดิษฐ์ และมุมมองในการให้ความหมายก็แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับความเข้าใจของแต่ละคน ถ้าสมมติคุณไปถามคนเหล่านั้น ถ้าเป็นคนที่อยู่ในแวดวงเกี่ยวกับพวกเทคโนโลยีก็อาจจะเอาไปเปรียบเทียบว่ากับพวกหุ่นยนต์โรบอท
บางคนก็เอาไปเปรียบเทียบเป็นตัวละครในหนังอย่างเช่น เรื่อง Terminator ที่ตัวหุ่นยนต์มีความคิดและการกระทำเป็นของตัวเอง แต่ถ้าคุณถามเรื่อง AI กับพวกนักวิจัยที่เค้าทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องปัญญาประดิษฐ์ ก็จะได้คำตอบประมาณว่า จริง ๆ แล้วมันคือ ชุดของ Algorithm ที่สามารถสร้างผลลัพธ์ออกมาได้เองโดยที่ไม่ต้องแนะนำวิธีการให้ สรุปเป็นภาษาทางการง่าย ๆ ก็คือ สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ให้มีความสามารถในการคิดได้เองโดยที่ไม่ต้องสอน คิดและแสดงออกแบบมีเหตุผลได้เหมือนมนุษย์”
อ้างอิงจาก : https://blog.cloudhm.co.th/what-is-ai/

AI (Artificial Intelligence ) เสมือนเป็นเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวก ช่วยในการให้คำแนะนำมนุษย์ ก่อนที่มนุษย์จะตัดสินใจ ช่วยต่อยอดให้กับมนุษย์เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาทักษะในสายงานอาชีพต่างๆ หรือในชีวิตประจำวันของเราก็ว่าได้ เอไอ แทรกซึมเข้ามาหามนุษย์เรื่อยๆ เหมือนมนุษย์เป็นผู้ทดลองใช้แพลทฟอร์ม(Platform)ต่างๆ แล้วประเมินความพึงพอใจ พฤติกรรม ความต้องการของมนุษย์นั่นแหล่ะซึ่งเราป้อนข้อมูลให้กับเอไอ ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ทุกความคิดและไอเดีย และมุมมองต่าง ล้วนต่างเป็นฐานข้อมูลทั้งนั้น ยิ่งมนุษย์ต้องการเห็นสิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิมมากเท่าไร ความเข้มข้นของฐานข้อมูล การพัฒนา ยิ่งย่นเวลามากขึ้นส่งผลให้เอไอ ก็ยิ่งล้ำหน้าและฉลาดมากขึ้น

อะไรเป็นจุดประกายให้มนุษย์เราอยากสร้าง AI
หลากหลายสาเหตุที่จุดประกายให้มนุษย์เราสร้างเอไอ เราเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ปัญหาในองค์กร ปัญหาในกลุ่มคน เมื่อเกิดปัญหามนุษย์ต่างหาวิธีที่จะช่วยลดปัญหาทำให้เกิดการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นเรื่อย ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด เพื่อตอบโจทย์มนุษย์ เราค่อยๆถ่ายทอดข้อมูลของเราแชร์สู่โลกอินเตอร์เน็ต ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นเสมือนขัดเกลาความฉลาดของ AI ให้ข้อมูลแม่นยำมากขึ้น อีกมุมมองหนึ่งขีดความสามารถของมุนุษย์ทางกายภาพเราที่เป็นจุดประกายหนึ่งที่เราต้องการ AI เข้ามามีบทบาทและให้ผลลัพท์ออกมาอย่างมีประสิทธิภาพที่น่าพึงพอใจ

วิวัฒนาการของ AI
เป็นไปได้มั้ยว่าก่อนที่จะเกิด AI นั้นมาจากการจินตนาการของมนุษย์ ที่สร้างสรรค์ว่าเอไอ จะมีลักษณะอย่างไรในอนาคตโดยถ่ายทอดผ่านภาพนิ่ง เสียง หรือภาพเคลื่อนไหว อย่างภาพยนตร์แนวไซไฟ(Sci Fi)ล้วนต่างเป็นการจิตนาการของเหล่ามนุษย์ ที่ถ่ายทอดความล้ำหน้าของเอไอ อย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อมนุษย์สร้างเอไอให้มนุษย์ด้วยกันเองทดลองใช้ที่ตอบโจทย์ทางธุรกิจ และชีวิตประจำวัน พอถึงจุดที่มนุษย์เรามีความพึงพอใจในระดับหนึ่ง ก็จะมีการเริ่มพัฒนาสิ่งใหม่มาเติมเต็มเรื่อยๆ
ก่อนที่จะมีอินเตอร์เน็ตเกิดขึ้น มนุษย์เราเริ่มสะสมข้อมูลต่างๆเริ่มแรกผ่านตัวอักษรในหนังสือ ค้นหาข้อมูลในหนังสือ ยุคสมัยเปลี่ยนเริ่มค้นหาข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์ทำให้ช่วยค้นหาข้อมูลรวดเร็วและหลากหลายขึ้นเนื่องจากเป็นข้อมูลจากมนุษย์ด้วยกันทั่วโลกที่ป้อนข้อมูล กาลเวลาผ่านไปเพื่อตอบโจทย์มนุษย์ก็ได้พัฒนาเป็นโน๊ตบุ๊กเพื่อสะดวกในการเคลื่อนย้ายและพกพา

ยุคสมัยเปลี่ยนอีกได้ทำการพัฒนาเป็นมือถือ ที่ตอนนี้ทุกอย่างเกือบจะอยู่ในมือถือเกือบหมดแล้ว ทำให้สะดวกมากขึ้นเรื่อยๆแต่กว่าจะมาถึงยุคแต่ละยุคข้อมูลมหาศาลมีมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน ทำให้ตั้งคำถามว่า ยุคสมัยต่อไปมนุษย์เราจะสร้างอะไรต่อไป ผู้เขียนเชื่อเหลือเกินว่า วันหนึ่งเมื่อข้อมูลยิ่งเพิ่มทวีคูณมากขึ้นเท่าไร คงจะถึงเวลาที่การพัฒนาที่เรียกว่า เอไอ มาสร้างเป็นกายภาพที่จับต้องได้ที่เปลี่ยนจากคอมพิวเตอร์ มือถือ กลายมาเป็นเอไอที่เคลื่อนไหวได้ ที่ไม่ได้มีเฉพาะแค่ในภาพยนตร์

บทบาทของ AI กับธุรกิจและชีวิตประจำวัน
AI เข้ามามีบทบาทกับธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดใหญ่อะไรที่เป็นการทำซ้ำการใช้ เอไอ เข้ามาช่วยจะทำให้มนุษย์เรามีเวลาที่จะทำอย่างอื่นมากขึ้น หรือมีเวลาที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆเพื่อต่อยอดธุรกิจต่อไปอย่างเช่น บางสายการบิน ที่ใช้ robot chat เพื่อโต้ตอบ กับ มนุษย์ นอกจากนี้แล้วเอไอยังช่วยทำนายความน่าจะเป็นชี้แนะแนวทางที่เป็นไปได้ให้มนุษย์เราด้วย สำหรับชีวิตประจำวัน เอไอ จะช่วยในการ แนะนำกิจวัตรประจำวัน ที่เห็นกันบ่อยคือ นาฬิกาสมาร์ทวอช(Smart Watch) ที่เข้ามาตอบโจทย์ให้กับคนที่รักสุขภาพ

จุดเปลี่ยน ที่จะเปลี่ยนไปและตลอดไป
การเปิดตัวแต่ละครั้งของ เอไอ เสมือนเป็น น้ำกระเพื่อม เราต้องปรับเปลี่ยนไปตามเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า ที่บางครั้งเราแทบจะปฏิเสธไม่ได้ บางกลุ่มคนแทบตามไม่ทันกันเลยทีเดียว อะไรที่มนุษย์เราก้าวข้ามแต่ละยุคแต่ละสมัย แล้วเราจะไม่กลับไปใช้อีกหรืออาจจะลดจำนวนการใช้ลงไป อย่างความล้ำของ AI ที่กำลังแทรกเข้าไปแทบจะทุกวงการธุรกิจต่างๆ และชีวิตประจำวันของเราพร้อมกับการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง
ตอนนี้ที่ค่อนข้างเป็นที่น่าสนใจกับการเปิดใช้อย่าง ChatGPT อาจจะค่อนข้างใหม่ สำหรับหลายๆคน แต่การเปิดตัว ของ ChatGPT ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ เชื่อว่าหลายๆคนค่อนข้างมีความคิดเห็นหนึ่งที่คล้ายกัน คือ การตอบแชท กับ ChatGPT ค่อนข้างที่เน้นการตอบแบบเชิงบวก และการถามตอบให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา ว่าเรากำลังคุยกับอีกคนในแชท ซึ่งข้อมูลอัพเดทล่าสุดของปี 2021 แต่เมื่อใด ที่ ChatGPT อัพเดทมาถึงปี2022-2023 ความมหาศาลของข้อมูล ยิ่งเพิ่มความล้ำหน้าและความฉลาดของChatGPT มากขึ้นเรื่อยๆ

“ChatGPT is an artificial intelligence (AI) chatbot developed by OpenAI and released in November 2022. It is built on top of OpenAI’s GPT-3.5 and GPT-4 families of large language models (LLMs) and has been fine-tuned (an approach to transfer learning) using both supervised and reinforcement learning techniques.
“ChatGPT เป็นแชทบอทปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่พัฒนาโดย OpenAI และเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2022 สร้างขึ้นบนตระกูลโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) รุ่น GPT-3.5 และ GPT-4 ของ OpenAI และได้รับการปรับแต่งอย่างละเอียด (แนวทางการถ่ายโอนการเรียนรู้) โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้ทั้งแบบมีผู้สอนและแบบส่งเสริมเทคนิคในการเรียนรู้”
อ้างอิงจาก : https://en.wikipedia.org/wiki/ChatGPT

บทสรุป AI
จะเห็นว่า AI (Artificial Intelligence ) เข้ามามีบทบาทกับมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ จากการพัฒนาที่ไม่มีที่สิ้นสุด ปรับเปลี่ยนรูปแบบที่ต้องการตอบโจทย์มนุษย์เรา เริ่มจากมนุษย์เราเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น และแก้ปัญหานั้นให้ดูสะดวกขึ้น แต่ความต้องการของมนุษย์ยังมีความต้องการสะดวกสบายที่มากกว่าเดิม เป็นผลให้มีการพัฒนาเอไอ(AI) อย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เอไอ ที่มนุษย์พัฒนาอย่างต่อเนื่อง อาจจะเป็นการยากที่มนุษย์เราไม่ใช่ทุกคนที่เข้าถึงความล้ำหน้าของ เอไอ
และในอีกมุมมองหนึ่งในเรื่องวงการธุรกิจ ความล้ำหน้า ของเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป หากเราไม่เปลี่ยนตามยุคสมัยเป็นการยากเช่นกันที่ธุรกิจจะเติบโตไปได้ และจะเห็นว่าความล้ำหน้าของเอไอ จากการเป็นเครื่อง search engine ที่ให้เราค้นหาข้อมูล ให้แนวคิดไอเดียกับมนุษย์ ที่เอไอประมวลผลมาในแนวตรรกะ
แต่เมื่อ ChatGPT เข้ามาเปิดตัว ดูเหมือนเป็น search engine ที่มีชีวิตชีวาเสมือนเราได้แชทกับใครสักคน อย่างไรก็ตามเราไม่สามารถต้านทานความล้ำหน้าของเอไอในอนาคตได้อย่างแน่นอนแค่ว่าการมาแทนที่มนุษย์จะช้าหรือเร็วแค่นั้น ธรรมชาติทุกสิ่งอย่างมีสองด้านเสมอ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นสัญญาณให้มนุษย์ตระหนักได้เลยว่ามนุษย์กำลังสร้างสิ่งใหม่เพื่อที่จะมาให้ประโยชน์และจัดสรรมนุษย์ผู้อ่อนแอทางอ้อมมากขึ้นเรื่อยๆหรือเปล่า หลังจากนี้คงอยู่ที่ตัวเราแล้วล่ะว่า เราจะปรับตัว หรือ เราจะยอมจำนน
Writer: Better Call Nika
Reference :
Comments