เส้นทางสู่การค้นพบตัวเองผ่าน “Inner Child” – EP 3/3 (ภาวะ Inner Child กับการเยียวยาเบื้องต้น)

Better Call Nika
16 พ.ค.
ยาว 2 นาที

ประสบการณ์ต่างๆ ที่เรามีในวัยเด็ก ทั้งดีและร้าย สามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตของเราเมื่อเราเติบโตขึ้น ประสบการณ์ในวัยเด็กที่เป็นลบหรือกระทบกระเทือนจิตใจมักจะติดตัวเราไปตลอด ความคิดที่ว่าเราแบกรับบาดแผลในวัยเยาว์ไว้ในตัวเราในวัยผู้ใหญ่เรียกว่า Inner child แม้ว่าคุณอาจไม่ตระหนักถึงความเจ็บปวดที่ Inner Child ในตัวคุณกำลังแบกรับอยู่ก็ตาม แต่ความเจ็บปวดนั้นอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตและความสัมพันธ์ของคุณได้

หลายๆ คนที่ประสบความยากลำบากในวัยเด็กมี "ภาวะ Inner Child ที่เป็นบาดแผล ทางจิตใจ" ที่ต้องได้รับการเยียวยา นี่คือที่มาของการบำบัดภาวะ Inner Child ในตัวคุณ ซึ่งก็คือการฝึกฝนการบำบัด Inner Child ในตัวคุณ ที่จะช่วยให้คุณเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะเชื่อมโยงวัยเด็กกับความสนุกสนาน หากคุณประสบกับการละเลย บาดแผลทางจิตใจ หรือความเจ็บปวดทางอารมณ์อื่นๆ ภาวะ Inner Child ในตัวของคุณอาจรู้สึกเล็กๆ ถึงความ เปราะบาง และต้องการปกป้อง คุณอาจฝังความเจ็บปวดนี้ไว้ลึกๆ เพื่อซ่อนมันและปกป้องตัวเอง ทั้งตัวคุณในปัจจุบันและตัวคุณในวัยเด็กที่คุณเคยเป็น

การซ่อนความเจ็บปวดไม่ได้รักษาความเจ็บปวดนั้น แต่กลับกัน มันมักจะปรากฏขึ้นในชีวิตวัยผู้ใหญ่ของคุณ โดยแสดงออกมาในรูปแบบของความทุกข์ในความสัมพันธ์ส่วนตัวหรือความยากลำบากในการตอบสนองความต้องการของคุณเอง ความพยายามในการเยียวยาภาวะ Inner Child ในตัวคุณจะช่วยให้คุณจัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้

บทความนี้จะเป็นตอนที่ สาม จาก สามบทความ เพื่อให้เข้ามากขึ้น ทำความเข้าใจว่า Inner Child คือ อะไรในตอนที่ 1 และตอนที่ 2 สัญญาณที่เราต้องเช็คว่ามีสัญญาณอะไรบ้างที่คุณอาจจะอยู่ในภาวะ Inner Child และเยียวยาตัวเราเอง ปลดล็อคบาดแผลในจิตใจของตัวเองให้เป็นอิสระ

ภาวะ Inner Child ในตัวคุณอาจต้องใช้เวลา แต่เคล็ดลับหกประการนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี

ทำความรู้จักและสัมผัส Inner Child ของคุณ

โดยการสังเกตว่าคุณพูดกับส่วนที่เปราะบางในตัวคุณอย่างไร และดูว่าคุณสามารถทำความรู้จักกับด้านนั้นของตัวคุณเองได้ดีขึ้นหรือไม่ หากทำได้ ให้ลองสังเกตว่า Inner child ของคุณ ถูกกระตุ้นเมื่อใด เพื่อที่คุณจะได้ตระหนักรู้มากขึ้นว่าการกระทำของคุณนั้นเกิดจากพวกเขา(ภาวะ Inner Child)คุณอาจสังเกตเห็นว่ามีรูปแบบบางอย่าง เช่น สถานการณ์หรือความสัมพันธ์บางอย่างที่ปลุกบางสิ่งบางอย่างจากอดีตขึ้นมาอีกครั้ง หากทำได้ ให้ลองปรับจูนเข้ากับว่าคุณรู้สึกอายุเท่าไรเมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น คุณอายุหกขวบ แปดขวบ หรือสิบขวบ บางครั้ง การดูรูปถ่ายของตัวเองในวัยนี้อาจช่วยให้คุณสร้างความเชื่อมโยงกับภาวะ Inner Child ของคุณได้มากขึ้น

ในการเริ่มเยียวยา คุณต้องยอมรับการมีอยู่ของภาวะ Inner Child เสียก่อน ดังที่ Kim Egel นักบำบัดในเมืองคาร์ดิฟฟ์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ชี้ให้เห็นว่า ใครๆ ก็สามารถติดต่อกับ Inner Child ในตัวคุณได้ หากพวกเขาเปิดใจที่จะสำรวจความสัมพันธ์นี้ หากคุณรู้สึกไม่แน่ใจหรือต่อต้านแนวคิดในการสำรวจอดีต คุณจะพบว่าการเริ่มกระบวนการรักษานั้นยากขึ้น

หากคุณรู้สึกแปลกหรืออึดอัดเล็กน้อยที่จะจินตนาการถึงการเปิดใจให้กับตัวตนในวัยเด็กของคุณ ลองนึกถึงการทำงานภายในจิตใจของเด็กเป็นกระบวนการค้นพบตนเอง

กระบวนการในการยอมรับภาวะInner Child ในตัวเองส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการตระหนักและยอมรับสิ่งต่างๆ ที่ทำให้คุณเจ็บปวดในวัยเด็ก การนำความเจ็บปวดเหล่านี้ออกมาเปิดเผยจะช่วยให้คุณเริ่มเข้าใจถึงผลกระทบของความเจ็บปวดเหล่านั้นได้

ฟังสิ่งที่ ภาวะ Inner Child ของคุณอยากบอก

หลังจากเปิดการยอมรับว่าเราเชื่อมต่อกับ ภาวะ Inner Child สิ่งสำคัญคือการฟังความรู้สึกที่เข้ามา “ความรู้สึกเหล่านี้มักเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่กระตุ้นอารมณ์ที่รุนแรง ความไม่สบายใจ หรือบาดแผลเก่าๆ”

เราอาจสังเกตเห็นได้จาก :

- ความโกรธต่อความต้องการที่ไม่ได้รับการตอบสนอง

- การละทิ้งหรือการปฏิเสธต่อความรู้สึก

- ความไม่มั่นคง

- ความเปราะบาง

- ความรู้สึกผิดหรือความอับอาย

- ความวิตกกังวล

หากคุณสามารถสืบย้อนความรู้สึกเหล่านี้ไปยังเหตุการณ์ในวัยเด็กได้ คุณอาจตระหนักได้ว่าสถานการณ์ที่คล้ายกันในชีวิตวัยผู้ใหญ่ของคุณกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองแบบเดียวกัน

นี่คือตัวอย่างที่ อาจจะช่วยคุณมองเห็น และเข้าใจมากขึ้น

อย่างเช่นว่า คุณวางแผนจะไปข้างนอก กับแฟน ทันใดนั้นคู่ของคุณก็ยุ่งกับงานและไม่มีเวลาออกไปเที่ยวกลางคืนที่คุณวางแผนไว้ แม้ว่าคุณจะรู้ว่าพวกเขาต้องการใช้เวลากับคุณมากกว่า แต่คุณยังคงรู้สึกถูกปฏิเสธและหงุดหงิด ความผิดหวังของคุณแสดงออกมาในลักษณะแบบเด็กๆ โดยคุณเดินกระโจนเข้าห้องและกระแทกประตู

การพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นผ่านมุมมองของ ภาวะ Inner Child สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าในสถานการณ์นี้ได้

คุณตระหนักว่าความต้องการทำงานกะทันหันของแฟนคุณทำให้คุณรู้สึกเช่นเดียวกับตอนที่พ่อแม่ของคุณยกเลิกแผน การเล่นกับเพื่อน หรือแม้แต่ปาร์ตี้วันเกิดของคุณ เนื่องจากตารางงานที่ยุ่งของพวกเขา

ด้วยวิธีนี้ การฟังความรู้สึกของภาวะ Inner Child และปล่อยให้ตัวเองได้สัมผัสกับความรู้สึกนั้นแทนที่จะผลักไสพวกเขาออกไป จะช่วยให้คุณระบุและยอมรับความทุกข์ที่คุณเคยประสบได้ ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการรับมือกับความทุกข์เหล่านั้น

เขียนจดหมาย

เพื่อเริ่มต้นการสนทนาและเริ่มกระบวนการเยียวยา แนะนำให้เขียนจดหมายถึง ภาวะ Inner Child โดยคุณอาจเขียนเกี่ยวกับความทรงจำในวัยเด็กจากมุมมองของผู้ใหญ่ โดยให้ข้อมูลเชิงลึกหรือคำอธิบายสำหรับสถานการณ์ที่น่าวิตกกังวลที่คุณไม่เข้าใจในตอนนั้น

“บางทีคุณอาจไม่รู้ว่าทำไมพี่ชายของคุณถึงตะโกนใส่คุณและทุบของเล่นของคุณอยู่เสมอ แต่คุณก็ยังเรียนรู้ที่จะกลัวเขาอยู่ดี หากคุณรู้ตัวว่าเขาถูกกลั่นแกล้งและทำร้ายร่างกายมาหลายปี ความโกรธของเขาอาจเริ่มมีเหตุผล การแบ่งปันการเปิดเผยนี้กับ ภาวะ Inner Child จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่หลงเหลืออยู่ได้”

จดหมายยังช่วยให้คุณมีโอกาสส่งข้อความเพื่อปลอบประโลมและปลอบโยนได้. คำถามสองสามข้ออาจช่วยให้การสนทนาดำเนินต่อไปได้:

“คุณรู้สึกอย่างไร”

“ฉันจะช่วยเหลือคุณได้อย่างไร”

“คุณต้องการอะไรจากฉัน”

การนั่งคิดคำถามเหล่านี้มักจะนำไปสู่คำตอบ แม้ว่าอาจต้องใช้เวลาสักพักก่อนที่ภาวะ Inner Child จะรู้สึกปลอดภัยและมั่นคง

ลองทำสมาธิดู

คำถามที่คุณถาม ภาวะ Inner Child คืออะไร? การทำสมาธิเป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการเปิดใจหาคำตอบการทำสมาธิมีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพกายและใจ แต่ประโยชน์บางประการมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการทำงานของภาวะ Inner child ประการหนึ่ง การทำสมาธิช่วยเพิ่มการตระหนักรู้ในตนเองอย่างมีสติ สอนให้คุณใส่ใจกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันมากขึ้น การมีสติมากขึ้นเกี่ยวกับอารมณ์ของคุณจะช่วยให้คุณสังเกตเห็นได้ง่ายขึ้นเมื่อสถานการณ์เฉพาะบางอย่างกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่เป็นประโยชน์

การทำสมาธิยังช่วยให้คุณรู้สึกสบายใจมากขึ้นกับอารมณ์ที่ไม่พึงประสงค์

เด็กๆ มักมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการบอกเมื่อมีอารมณ์ที่ไม่สบายใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาไม่ได้รับการสนับสนุนให้แสดงออก พวกเขาอาจเก็บกดหรือฝังความรู้สึกเหล่านี้ไว้เพื่อหลีกเลี่ยงการลงโทษหรือได้รับคำชมจากผู้ดูแลสำรับการเป็น“คนดี” หรือ รักษาการควบคุม การทำสมาธิช่วยให้คุณ “ฝึกยอมรับและอยู่กับความรู้สึกใดๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของคุณ” เมื่อคุณคุ้นเคยกับการยอมรับอารมณ์เมื่อมันเกิดขึ้น คุณจะพบว่าการแสดงออกในทางที่ดีต่อสุขภาพนั้นง่ายขึ้น วิธีนี้จะช่วยยืนยันความรู้สึกของ Inner Child ของคุณ โดยส่งข้อความว่าการมีอารมณ์(จากความไม่สบายใจ) และปล่อยมันออกมาเป็นเรื่องปกติ

คุณสามารถลองทำสมาธิแสดงความเมตตาเพื่อส่งความรู้สึกแห่งความรักไปยังตัวคุณในวัยเด็กได้ นอกจากนี้ แนะนำการทำสมาธิแบบนึกภาพถือเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการจินตนาการถึงภาวะInner Child หรือแม้แต่ "เยี่ยมเยือน" พวกเขาในฐานะตัวคุณในวัยผู้ใหญ่

การเขียนบันทึกให้เป็นเสมือน ภาวะ Inner Child

หลายคนพบว่าการเขียนบันทึกเป็นวิธีที่มีประโยชน์ในการจัดการกับประสบการณ์ที่ท้าทายหรือสับสนและความขัดแย้งทางอารมณ์ หากคุณเขียนบันทึก คุณอาจได้รับประโยชน์มากมายจากกลยุทธ์การรับมือนี้ การเขียนบันทึกช่วยให้คุณจดจำรูปแบบต่างๆ ในชีวิตวัยผู้ใหญ่ที่คุณต้องการเปลี่ยนแปลงได้ การเขียนบันทึกจากมุมมองของ ภาวะ Inner Child ในตัวคุณก็สามารถช่วยให้คุณจดจำรูปแบบที่ไม่เป็นประโยชน์ซึ่งเริ่มต้นในวัยเด็กได้เช่นกัน สำหรับการเขียนบันทึกนี้ ให้พักตัวเองในปัจจุบันไว้ก่อนและเปลี่ยนตัวเองเป็นเด็กน้อย ลองใช้รูปถ่ายหรือแบบฝึกหัดการสร้างภาพสั้นๆ เพื่อช่วยนึกถึงความรู้สึกของคุณในช่วงวัยที่คุณตั้งใจจะสำรวจ

เมื่อคุณมีทัศนคติที่ถูกต้องแล้ว ให้เขียนความทรงจำและอารมณ์ต่างๆ ที่คุณเชื่อมโยงกับเหตุการณ์เหล่านั้นลงไป พยายามอย่าคิดมากเกินไปเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังเขียน เพียงแค่ปล่อยให้ความคิดไหลออกมาบนกระดาษเมื่อมันผุดขึ้นมา การแสดงออกอย่างไม่ควบคุมจะช่วยให้คุณเข้าถึงแก่นแท้ของความเจ็บปวดในตัวเด็กในตัวคุณได้

ย้อนวันวานกับความสุขในวัยเด็ก

วัยผู้ใหญ่มาพร้อมกับความรับผิดชอบมากมาย แต่การผ่อนคลายและความสนุกสนานเป็นองค์ประกอบสำคัญของสุขภาพจิตที่ดี หากวัยเด็กของคุณขาดประสบการณ์เชิงบวก การกลับมาสัมผัสกับด้านความสนุกสนานของคุณและใช้เวลาไปกับความสนุกสนานจะช่วยเยียวยาความเจ็บปวดจากการพลาดสิ่งที่คุณต้องการในวัยเด็กได้ การเพลิดเพลินกับความสุขเล็กๆ น้อยๆ เช่น ไอศกรีมหลังจากเดินเล่น เล่นเกมกับคู่รักหรือลูกๆ และเสียงหัวเราะกับเพื่อนก็มีความสำคัญเช่นกัน ไม่ว่าคุณจะทำอะไร การจัดสรรเวลาให้กับความสนุกสนานและความเบิกบานใจในชีวิตของคุณเป็นประจำจะช่วยจุดประกายอารมณ์เชิงบวกของวัยหนุ่มสาวให้กลับมาอีกครั้ง

สร้างผู้ดูแลชุดใหม่

แต่ละครอบครัวการเลี้ยงดูลูกๆ แตกต่างกันไป บางครอบครัวเลี้ยงดูเป็นอย่างดี เอาใจใส่ ห่วงใยอารมณ์ความรู้สึกของลูก บางครอบครัวเลี้ยงดูแบบปล่อย ละเลยอารมร์ความรู้สึกของลูก กาลเวลาเปลี่ยนไปการเลี้ยงดูก็เปลี่ยนไป ไม่มีครอบครัวไหนที่สมบูรณ์แบบในการเลี้ยงดู บางครอบครัวคิดว่าพวกเขาทำดีที่สุดแล้ว

แต่เราก็ยังมีความขุ่นเคืองใจต่อคนที่เราเติบโตมาด้วย คุณไม่สามารถย้อนกลับไปพูดสิ่งที่ถูกต้องกับตัวเองเพื่อให้ทุกอย่างดีขึ้นได้ แต่คุณสามารถฝึกฝนการดูแลตนเองและความเห็นอกเห็นใจได้ตั้งแต่ตอนนี้ ตัดสินใจที่จะเป็นพ่อแม่ของตัวเอง กอดตัวเองเพื่อพูดแบบนั้นหากคุณรู้สึกว่าเด็กน้อยที่มีบาดแผลทางจิตใจภายในของคุณกำลังอารมณ์เสีย ให้ทำตามที่คุณอยากให้ใครสักคนทำเมื่อคุณยังเด็ก

ประโยชน์พื้นฐานของการเยียวยากับภาวะ Inner Child ของคุณคือการพัฒนาความตระหนักรู้ในตนเอง ทักษะแรกที่ต้องพัฒนาคือการสำรวจตนเอง และทักษะนี้จะวางรากฐานสำหรับการเติบโตส่วนบุคคลและอาชีพอื่นๆ ทั้งหมด สิ่งที่ได้รับเมื่อปลดล็อค ภาวะ Inner Child นั่นคือ

· การทำความเข้าใจว่าบาดแผลในอดีตส่งผลต่อพฤติกรรมปัจจุบันของคุณอย่างไร

· การพัฒนากลไกการรับมือที่เหมาะสมในการจัดการอารมณ์และความกระทบกระเทือนทางจิตใจ

· การเชื่อมต่อกับความหลงใหล ความฝัน และพรสวรรค์ที่คุณอาจละทิ้งไป

· คุณรู้สึกปลอดภัย มีพลัง และควบคุมชีวิตของคุณได้แทนที่จะรู้สึกเจ็บปวด

· การควบคุมอารมณ์ที่ดีขึ้น

· ความนับถือตนเอง ความเห็นอกเห็นใจตนเอง และความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นที่เพิ่มขึ้น

6 วิธีเบื้องต้นในการเริ่มเยียวยาภาวะ Inner Child ขึ้นอยู่กับแต่ละคนมีประสบการณ์ชีวิตที่เผชิญมาแตกต่างกัน สิ่งสำคัญ คือ ต้องใช้เวลาและทำความเข้าใจ เปิดใจกับความรู้สึกในวัยเด็ก ที่เด็กคนนี้อยากจะบอกอะไรกับเราในวัยผู้ใหญ่ ซึ่งเราต้องอาศัยการสังเกตตัวเอง กับอารมณ์ ความรู้สึก และการแสดงออก ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ จนกลายเป็นปัญหาที่ทำให้เราไม่สบายใจ เมื่อเราสามารถปลดล็อค ภาวะ Inner Child ได้ เสมือนเราไขข้อข้องใจในจิตใจของตัวเอง ทำให้เกิดการเชื่อมโยงในวัยเด็กกับตัวเรา ณ ปัจจุบัน ในวัยผู้ใหญ่

Writer : Better Call Nika

อ้างอิงจาก :