เส้นทางสู่การค้นพบตัวเองผ่าน “Inner Child” – EP 2/3 (7 สัญญาณ ที่คุณอาจจะอยู่ในภาวะ Inner Child)
- Better Call Nika
- 16 พ.ค.
- ยาว 1 นาที

ภาวะ Inner Child อาจจะเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยปลดล็อคความรู้สึกในใจของเรา มองเห็นตัวเองในส่วนที่เป็นความรู้สึกของเราส่วนนั้นขาดหายไปและต้องการเติมเต็ม เยียวยาให้กับตัวเอง แต่กว่าเราจะรู้ตัวเองว่าอยู่ภาวะ Inner Child หรือไม่นั้นบางครั้งอาจจะสายเกินไปที่จะแก้ไขสถานการณ์ บทความนี้ จะช่วยให้คุณเข้าใจหรือสังเกตความรู้สึกตัวเองถึงสัญญาณว่า เราอาจจะอยู่ในภาวะ inner child และหาวิธีเยียวยาที่เหมาะสมกับตัวเองต่อไป อย่าลืมว่า ภาวะ Inner Child นั้น ต้องใชเวลา ใช้ความเข้าใจ และสร้างใหม่
ทำความเข้าใจว่าบาดแผลจิตใจในอดีตส่งผลต่อพฤติกรรมปัจจุบันของคุณอย่างไร สิ่งที่คุณจะได้รับจากการทำความเข้าใจภาวะ Inner Child อย่างน้อยให้ตัวเราเข้าใจพัฒนากลไกการรับมือที่เหมาะสมในการจัดการอารมณ์และบาดแผลทางจิตใจ เชื่อมโยงเข้ากับความหลงใหล ความฝัน และพรสวรรค์ที่คุณอาจละทิ้งไป คุณรู้สึกปลอดภัย มีพลัง และควบคุมชีวิตของคุณได้แทนที่จะรู้สึกเจ็บปวด ควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น มีความนับถือตนเอง ความเห็นอกเห็นใจตนเอง และใจผู้อื่นมากขึ้น
การปล่อยวางอดีตอาจเป็นเรื่องยากกับใครหลายๆคน ที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเรายังคงมีปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข เราไม่เคยประมวลผลสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราอย่างเต็มที่ และเราหลีกเลี่ยงประสบการณ์เหล่านั้นโดยสิ้นเชิง ประสบการณ์เหล่านั้นอาจเข้ามาแทรกแซงและส่งผลกระทบต่อสุขภาพกาย จิตใจ และอารมณ์ของเราได้ ในทางกลับกัน ภาวะ Inner Child จะปรากฏออกมาเมื่อใดก็ตามที่ประสบการณ์ปัจจุบันของเรากระตุ้นความรู้สึกที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขเหล่านี้ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อวิธีที่เรามองเห็นตัวเองและวิธีที่เราโต้ตอบกับผู้อื่น

บทความก่อนหน้า ที่ผู้เขียนให้ไอเดียขยายความถึง Inner Child (อินเนอร์ ไชด์) คืออะไร บทความนี้ ทำความเข้าใจ ถึงอาการ ความรู้สึกแบบไหนที่เป็นสัญญาณถึง ภาวะ Inner Child
7 สัญญาณที่บอกว่าภาวะ Inner Child ต้องการเยียวยารักษา
มีความรู้สึกแบบให้เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เป็นเรื่องใหญ่
หากบาดแผลจิตใจในวัยเด็กของคุณบางส่วนเกิดขึ้นเมื่อคุณยังเด็กเกินกว่าจะจำได้ แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าบาดแผลจิตใจเหล่านั้นมีอยู่จริง วิธีหนึ่งคือมองหาเบาะแสจากปฏิกิริยาของคุณต่อสถานการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากปฏิกิริยาบางอย่างดู "เกินเหตุ" หรือ "ไม่สมส่วน" ตัวอย่างเช่น หากคุณรู้สึกโกรธมากเมื่อเพื่อนดูโทรศัพท์ขณะที่คุณกำลังคุยกับพวกเขา นั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าความต้องการความสนใจของคุณบางอย่างไม่ได้รับการตอบสนองเมื่อยังเป็นเด็ก
อีกนัยหนึ่ง ปัญหาทางจิตใจ อารมณ์ และความสัมพันธ์ที่เราเผชิญในชีวิตประจำวันมักเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความเจ็บปวดในอดีต ทั้งที่จำได้และลืมไปแล้ว เราสามารถค้นหาเบาะแสจาก "บาดแผล" ทางจิตใจของเราได้ ซึ่งอาจรวมถึงการมีปฏิกิริยาที่รุนแรงต่อสถานการณ์ที่ดูเหมือนไม่สำคัญ

พฤติกรรมทำลายตัวเอง
เคยพลาดกำหนดเวลารับสมัครงานในฝันบ้างไหม? หรือทะเลาะกับแฟนใหม่โดยไม่มีเหตุผล? บางครั้งนี่อาจเป็นสัญญาณว่าในขณะที่คุณเป็นผู้ใหญ่พร้อมสำหรับความก้าวหน้าในอาชีพการงานหรือความสัมพันธ์ที่จริงจัง แต่ส่วนอดีตในวัยรุ่นของคุณลึกๆแล้ว กลับรู้สึกกลัวและวิตกกังวลอย่างมากในเรื่องนี้ คำพูดของนักจิตวิเคราะห์ อลิซ มิลเลอร์ ผู้แต่ง The Drama of Being a Child คุณกำลัง 'ยังคงกลัวและหลีกเลี่ยงอันตรายที่แม้จะครั้งหนึ่งมีจริง แต่ก็ไม่มีจริงมาเป็นเวลานาน'
พฤติกรรมทำลายตัวเองจากภาวะ Inner Child อาจมีรากฐานมาจากเหตุผลต่างๆ มากมาย และอาจแสดงออกมาในรูปแบบของความหลงลืม การผัดวันประกันพรุ่ง หรือการสูญเสียอารมณ์ อาจแสดงออกมาในรูปแบบของการหาเหตุผลว่าทำไมความสัมพันธ์ งาน หรือโอกาสต่างๆ ถึงไม่ค่อยเหมาะกับคุณ ในขณะที่จริงๆ แล้ว คุณแค่ถูกขับเคลื่อนด้วยความกลัว นั่นคือเหตุผลที่ควรใส่ใจพฤติกรรมทำลายตัวเอง เนื่องจากสาเหตุอาจอยู่ในวัยเด็ก

กลไกการรับมือที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
กลไกการเผชิญปัญหาคือทุกสิ่งที่เราทำเพื่อจัดการกับอารมณ์ที่ยากลำบากหรือเจ็บปวด บางครั้งผู้ที่มีบาดแผลในจิตใจตอนวัยเด็กจะพัฒนาทักษะการรับมือที่ไม่ดีต่อสุขภาพตัวเองมากขึ้น เช่น การใช้ยาเสพติด การดื่มสุรา หรือการแยกตัวออกจากความเป็นจริงผ่านการเล่นเกมและโซเชียลมีเดียมากเกินไป พวกเขาอาจพาตัวเองจมอยู่กับความวุ่นวายตลอดเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกของตนเอง ตามคำบอกเล่าของมิลเลอร์ "...ไม่อนุญาตให้มีช่วงเวลาแห่งความเงียบแม้แต่ชั่วขณะเดียวที่จะสามารถสัมผัสได้ถึงความเหงาอันแผดเผาของประสบการณ์ในวัยเด็กได้..."
นี่เป็นเพราะว่าปฏิกิริยาที่ดีต่อสุขภาพต่อสถานการณ์ที่เจ็บปวด เช่น การประมวลผลอารมณ์และการฝึกปลอบใจตนเอง อาจไม่ได้อย่างจากครอบครัวของคุณ(วิธีการทำเช่นนี้รวมถึง การฝึกสติ การฝึกหายใจ และการบำบัด)

ความสัมพันธ์ที่ยาก..ในครอบครัว
ซึ่งอาจรวมถึงความตึงเครียดในครอบครัว ความรู้สึกถูกปฏิเสธ ความรู้สึกถูกวิพากษ์วิจารณ์ ความรู้สึกเหมือนถูกขับออกจากบ้าน หรือการใช้อารมณ์รุนแรงระหว่างคุณกับครอบครัว ไม่ว่าปัญหาจะเป็นอย่างไร ความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ท้าทายทุกรูปแบบอาจชี้ไปที่ปัญหาเก่าในวัยเด็กที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขและความต้องการที่ไม่ได้รับการตอบสนอง
ที่จริงแล้ว วิธีที่พ่อแม่หรือพี่น้องทำให้คุณรู้สึกในปัจจุบันอาจเป็นสัญญาณว่าคุณรู้สึกว่าตัวเองยังตัวเล็ก เพราะความเป็นภาวะ Inner Child ยังคงตอบสนองในลักษณะเดียวกันเมื่ออยู่ใกล้พวกเขา ดังนั้น หากคุณรู้สึกว่าถูกเพิกเฉย กลายเป็นแพะรับบาป หรือถูกครอบครัวทอดทิ้งทางอารมณ์ ให้ใส่ใจเรื่องนี้ ตัวตนในวัยเด็กของคุณอาจพยายามบอกบางอย่างกับคุณ

การวิพากษ์วิจารณ์ตนเองและความนับถือตนเองต่ำ
หากคุณมีภาวะนักวิจารณ์อยู่ภายในจิตใจ หรือเรียกว่า Inner Critic ที่คอยจับผิดคุณอยู่เสมอและมองข้ามความรู้สึกของคุณ อาจเกิดจากการมีผู้ใหญ่ที่ชอบวิจารณ์หรือเรียกร้องมากเกินไปรอบตัวคุณตั้งแต่ยังเป็นเด็ก
สิ่งที่เกิดขึ้นคือตัวคุณตอนอายุน้อยกว่าได้ "สอดแทรก" เสียงผู้ใหญ่ที่วิพากษ์วิจารณ์นี้ไว้ภายใน เพื่อว่าเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ เสียงนั้นก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของความคิดและโลกทัศน์ของคุณเอง แต่สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าความคิดเห็นของนักวิจารณ์ที่อยู่ภายในจิตใจคุณนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นความจริงเสมอไป เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะเป็นโปรแกรมเก่าๆ ที่คุณสามารถเรียนรู้ที่ปลดปล่อยโปรแกรมนั้นได้ และในที่สุด ก็ทำให้คุณและความเป็น Inner Child ในตัวคุณเป็นอิสระ
ปัญหาความสัมพันธ์
หากคุณพบว่าคุณอยู่ในรูปแบบของความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อสุขภาพจิตใจ ไม่มีความสุข หรือถูกทำร้าย หรือไล่ตามคนที่ไม่เค้าไม่ได้รักเราตลอดเวลา ภาวะ Inner Child ของคุณอาจได้รับบาดเจ็บทางจิตใจลึกๆ จากความสามารถในการที่จะเชื่อมต่อความรู้สึกกับผู้อื่นอย่างบริสุทธฺ์และจริงใจ
ปัญหาทางจิตใจ ร่างกาย และอารมณ์
ผู้ที่อยู่ในภาวะ Inner Child ที่ได้รับบาดเจ็บทางจิตใจมักจะประสบกับความรู้สึกว่างเปล่า ทำอะไรไม่ถูก และสิ้นหวังอย่างต่อเนื่องและเรื้อรัง พวกเขาอาจรู้สึกว่าตนเองดำรงอยู่โดยไร้ตัวตน และรู้สึกว่าชีวิตของตนขาดความมีชีวิตชีวาหรือความเป็นธรรมชาติ พวกเขาอาจรู้สึกห่างเหินจากผู้อื่นอย่างเป็นอย่างมาก

ปัญหาสุขภาพจิต เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า ติดยาเสพติด ความผิดปกติในการรับประทานอาหาร และ C-PTSD (Complex Post-Traumatic Stress Disorder- โรคเครียดจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ) ก็อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน นอกจากนี้ อาการทางกาย เช่น ไมเกรน กลุ่มอาการอ่อนล้าเรื้อรัง และไฟโบรไมอัลเจีย ยังเชื่อมโยงกับความบอบช้ำทางจิตใจในภาวะ Inner Child อีกด้วย และทั้งหมดนี้อาจเป็นสัญญาณว่า ภาวะ Inner Child กำลังพยายามสื่อสารอะไรบางอย่างที่สำคัญกับคุณ
เมื่อเราเผชิญกับสัญญาณต่างๆ ที่สัมพันธ์กับเหตุการณ์ ในวัยเด็กและสะท้อนออกมาในวัยผู้ใหญ่ บางคนต้องเก็บความทนทุกข์ทรมานเพราะหาสาเหตุกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองไม่ได้ ลองปรับเปลี่ยนมุมมอง เปิดใจ ทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ว่าเราอยู่ในภาวะ Inner Child หรือไม่ การเยียวยาภาวะInner Child ด้วยตัวเองในเบื้องต้น อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเยียวยา และเข้าใจตัวเองมากขึ้น
Writer : Better Call Nika
อ้างอิงจาก :
https://www.lumohealth.care/blog/do-you-have-a-wounded-inner-child-here-are-7-key-signs https://www.innermelbpsychology.com.au/what-is-inner-child-work-and-how-to-get-started/
Comentarios