top of page
รูปภาพนักเขียนBetter Call Nika

หากไม่เข้าใจพลังงานความเป็นเพศชาย (Masculine Energy) เราคงไม่รู้จักคำว่า”ความสำเร็จ”

If we didn’t understand Masculine Energy, we wouldn’t know the word “success”


การแสดงถึงอำนาจ การแข่งขัน การวางแผน การสร้างกฎเกณฑ์ การตั้งเป้าหมาย ความทะเยอทะยาน ต่างล้วนได้อิทธิพลจากพลังงานความเป็นเพศชาย(Masculine Energy) ที่ขับเคลื่อนความคิดของเราให้ตัดสินใจ และลงมือทำ บางครั้งด้วยสถานการณ์ที่กดดันความรู้สึกที่เป็นเหตุให้คุณต้องคิด วิเคระห์ก่อนตัดสินใจล้วนได้รับอิทธิพลจากพลังงานนี้ พลังงานความเป็นเพศชาย จะมีลักษณะที่ตรงกันข้ามกับพลังงานความเป็นเพศหญิง(Feminine Energy) ซึ่งทั้งสองพลังงานจำเป็นที่เราทุกคนจะต้องนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เราต่างเผชิญกับสถานการณ์การที่แตกต่างกัน จึงขึ้นอยู่กับคุณว่าจะอนุญาตให้พลังงานนี้เข้ามาขับเคลื่อนความรู้สึกของคุณ มากน้อยก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้ว


ผู้เขียน อุทิศบทความนี้แด่คุณแม่ค่ะ ที่เป็นแรงบันดาลใจจากช่วงหนึ่งของชีวิตท่าน อยากจะถ่ายทอดผ่านตัวอักษร เพื่อต่อยอดให้ผู้อ่านเข้าถึงการทำงาน การขับเคลื่อนของพลังงานความเป็นเพศชาย(Masculine Energy) ก่อนที่เราจะเข้าใจคนอื่น จงเข้าใจตัวเราเองก่อน เข้าใจธรรมชาติที่มอบสิ่งนี้มาให้เรา เป็นเสมือนส่วนหนึ่งของเครื่องมือในการขับเคลื่อนความรู้สึกของเรา คนที่ขับเคลื่อนก็คือตัวคุณ

  1. ความแตกต่างระหว่างพลังงานความเป็นเพศชาย (Masculine Energy) และพลังานความเป็นเพศหญิง (Masculine Energy)

สังเกตธรรมชาติรอบตัวเรา มักมีสองด้านเสมอ อย่างพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ร่างกายตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ ตกเย็นเราก็ต้องนอนเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนเหมือนเราเป็นส่วนหนึ่งของกลไกธรรมชาติ เราเกิดมาบนโลกใบนี้วันหนึ่งของชีวิตเราก็ต้องดับไป พลังงานในตัวเราก็เช่นกันมีทั้งพลังงานความเป็นเพศชาย(Masculine Energy)และพลังงานความเป็นเพศหญิง (Feminine Energy) สร้างขึ้นมาเพื่อให้ชีวิตของเราสมุดลนั่นเอง


พลังงานความเป็นเพศชาย(Masculine Energy) ได้อธิบายไปแล้วในอีกหนึ่งบทความ รวมทั้งพลังงานความเป็นเพศหญิง(Feminine Energy) สำหรับบทความนี้มาทำความรู้จักให้มากขึ้น รับรู้ถึงเส้นทางที่เราได้รับอิทธิพลจากพลังงานความเป็นเพศชาย ที่อยู่ในตัวคุณทั้งผู้ชายหรือผู้หญิง

พลังงานความเป็นเพศชายทำให้เราได้รู้จัก การคิด การวิเคราะห์ การตั้งเป้าหมาย เพื่อให้สำเร็จ หรือมองในอีกมุมมองหนึ่งคือความเป็นวิชาการ ระเบียบแบบแผน ความอยู่รอด สังเกตว่า

ทำไมเราถึงมีพลังงานความเป็นเพศชาย(Masculine Energy) มากกว่าพลังงานความเป็นเพศหญิง(Feminine Energy) เรารับรู้พลังงานเหล่านี้ จากการเรียนรู้ ความอยากรู้อยากเห็น
  • การปลูกฝัง (Cultivate)

สมัยวัยเด็ก ธรรมชาติของการเรียนรู้ได้รับมาจากผู้ที่ดูแลพวกเขาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ พี่เลี้ยงเด็ก พี่น้อง ญาติๆของเรา เราซึมซับ ลอกเลียนแบบ และได้รับการบ่มเพาะ ให้เราพยายาม คือ พยายามนั่ง พยายาม เดินก้าว ที่ละก้าวที่ละก้าว พยายามลองผิดลองถูก อันไหนที่ทำให้เจ็บ ร้องไห้ ก็เริ่มคิด ทบทวน เพื่อที่จะไม่เจ็บอีกเมื่อเราเข้าสู่อีกวัยขึ้นไป การปลูกฝังที่ได้รับก็ขับเคลื่อนและยึดปฏิบัติ เพราะเรามองว่า สิ่งนี้เป็นที่ยอมรับของสังคมที่คุณดำรงอยู่ เราได้รับการปลูกฝังพลังงานความเป็นเพศชาย (Masculine Energy) อย่างเห็นได้ชัด


  • กรอบของสังคม (Boundary of Social)

สิ่งไหนที่กลุ่มสังคมยึดมั่นถือมั่น ในการปฏิบัติ โดยกลุ่มคนส่วนใหญ่ มองว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และยอมรับ กลายเป็นกรอบของสังคม สร้างกฏ ระเบียบแบบแผนเพื่อความเรียบร้อย เหล่านี้เป็นเสมือนพลังงานความเป็นเพศชาย(Masculine Energy) เราได้รับอิทธิพลจากสังคมของเราที่รวมตัวกันสร้างขึ้นมา ทุกยุคทุกสมัย สืบทอดกันมา


  • การแข่งขัน (Competition)

เมื่อมีการแข่งขันทำให้เราเกิดการวางแผน การคิดวิเคราะห์ ตั้งเป้าหมาย และมุ่งมั่นตั้งใจเพื่อให้สัทฤทธิ์ผล การแข่งขันมีมาช้านาน เช่น การแข่งขันในวัยเรียน การสอบเพื่อให้ผ่าน การทำงานเพื่อเลื่อนขั้นในตำแหน่งที่สูงขึ้น หรือจะเป็นการแข่งขันเพื่อพิสูจน์ถึงศักยภาพของตัวเอง ผลิตภัณฑ์ เราล้วนได้รับอิทธิพลจากพลังงานความเป็นเพศชายขับเคลื่อนความนึกคิดของเราเป็นส่วนใหญ่


  • ความอยู่รอด (Survival)

สถานการณ์ที่อยู่ในสภาวะที่เรียกได้ว่า สภาวะฉุกเฉิน สภาวะกดดัน สภาวะวิกฤติ นำมาซึ่งส่งผลให้เราเกิดการคิด ไตร่ตรอง กลั่นกรอง ก่อนที่จะตัดสินใจ และลงมือทำ สถานการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นกับทุกคน ขึ้นอยู่กับการดำรงชีวิตของแต่ละคน จากชีวิตประจำวัน การทำงาน ในกลุ่มสังคมของคุณ เราซึมซับจากสิ่งเหล่านี้ที่ล้วนเป็นพลังงานความเป็นเพศชาย(Masculine Energy) ขับเคลื่อน และหล่อเลี้ยงให้ตัวเราเองตลอด


  • ค่านิยม (Values)

สิ่งที่บุคคลพอใจหรือเห็นว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่า แล้วยอมรับไว้เป็นความเชื่อ หรือความรู้สึกนึกคิดของตนเอง ค่านิยมจะสิงอยู่ในตัวบุคคลในรูปของความเชื่อตลอดไป จนกว่าจะพบกับค่านิยมใหม่ ซึ่งตนพอใจกว่าก็จะยอมรับไว้ ค่านิยมทำให้เกืดสิ่งใหม่ เป็นที่ได้รับการขับเคลื่อนของพลังงานความเป็นเพศชาย(Masculine Energy)เช่นกันเพื่อที่จะยกระดับจากค่านิยมเก่าให้ดีขึ้นและมีความพึงพอใจมากกว่าสิ่งเดิม ซึ่งเราต้องใช้การคิด วิเคราะห์และวางแผนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

ผลที่ได้รับและประโยชน์ของพลังงานความเป็นเพศชาย (Masculine Energy) จากการซึมซับและหล่อเลี้ยงเรื่อยมาขับเคลื่อนให้คุณ ได้แสดงถึง

  1. ความมั่นใจในตัวคุณ (Strong Self-confidence)

  2. ปรับปรุงการคิดอย่างมีวิจารณญาณ(Improved critical thinking)

  3. ประสิทธิภาพและกลยุทธ์ (Efficiency and strategy)

  4. ความชัดเจนในจิตใจ (Mental clarity)

  5. ความสมดุลทางอารมณ์(Emotional balance)

  6. มีขอบเขตที่ดีต่อสุขภาพ(Healthy boundaries)

  7. มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น (More self-assertiveness)

  8. อำนาจจิตเป็นศูนย์กลาง (Centered Willpower)

  9. มีวินัยในตนเอง (Self-discipline)

อ้างอิงจาก https://www.herorise.us/divine-masculine-energy/


จะเห็นว่า สิ่งที่ธรรมชาติให้มาที่เรียกว่าพลังงานในตัวคุณ ที่ขับเคลื่อนความรู้สึกของคุณ คือ พลังงานความเป็นเพศชาย(Masculine Energy) และพลังงานความเป็นเพศหญิง (Feminine Energy) เป็นองค์ประกอบ เราทุกคนต่างมีพลังงานนี้เหมือนกัน เราได้รับการหล่อเลี้ยงจากแนวโน้มในการขับเคลื่อนพลังงานความเป็นเพศชายเกือบทุกช่วงชีวิต เป็นส่วนใหญ่ เราเห็นความสำเร็จของตัวเอง ความสำเร็จทางการศึกษา ความสำเร็จในหน้าที่การงาน เส้นทางแห่งความสำเร็จของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน ระยะเวลาแห่งความสำเร็จก็แตกต่างกันเช่นกัน เราก็ต่างล้วนใช้พลังงานขับเคลื่อนพลังงานความเป็นเพศชาย(Masculine Energy)


ก่อนที่จะเริ่มมาเขียนบทความและเปิดเว็บไซต์นี้ ยังไม่รู้ซึ้งถึงพลังงานนี้ ก็เข้าใจเพียงแค่ว่า นี่คือสไตล์ของผู้นำ ที่จะให้ตัวเองประสบความสำเร็จ ช่วงชีวิตของผู้เขียนเรียนรู้พลังงานความเป็นเพศชาย มาจากคุณแม่ค่ะ ถูกปลูกฝังและเรียนรู้มากับท่านตลอด คุณพ่อท่านเสียชีวิตตอนที่ผู้เขียนยังเด็กมาก คุณแม่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์วิกฤติของชีวิต ที่จำเป็นต้องแสดงทั้งหน้าที่ของความเป็นพ่อและแม่ในเวลาเดียวกัน กับลูกๆอีกสามคน แต่สถานการณ์นี้คุณแม่มีแต่บทบาทของคำว่าพ่อ หน้าที่ของหัวหน้าครอบครัว เป้าหมายคุณแม่คือเห็นลูกทุกคนประสบความสำเร็จ เพราะสมัยนั้นการที่ประสบความสำเร็จมองว่า ต้องจบการศึกษาปริญญาตรี คุณแม่เริ่มทำงานหนัก ทำเกือบทุกอย่างเป็นรายได้ส่งลูกสามคนเรียนให้ได้เรียน มันไม่ใช่เรื่องง่ายค่ะ


ผู้เขียน : Better Call Nika

ดู 493 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments

Rated 0 out of 5 stars.
No ratings yet

Add a rating
Nika logo_edited.jpg

Key is Words
Now is Open (mind).

“ยินดีต้อนรับ สู่ Key is Words เป็นเว็บไซต์ที่จะมาต่อยอดทางความรู้ ความคิด มุมมองให้กับทุกท่าน เชื่อว่า ทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ เป็นผู้ที่มีความรู้รอบด้าน เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว เราจะเชื่อมต่อกัน ด้วยการต่อยอดความรู้-เสียง-ดนตรีกันค่ะ”

กดติดตามที่นี่ค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ!

  • Facebook
  • Instagram
  • Twitter
  • Pinterest
  • TikTok
bottom of page