จักระทั้ง 7 คือ อะไร กับยุคสมัยปัจจุบัน EP 1/8 (What is 7 Chakras? 2022)

“จักระทั้งเจ็ด เราอาจจะรับรู้มาบ้างจากการฝึกเล่นโยคะ เป็นศาสตร์ที่ฝึกร่างกายเข้าใจ ศูนย์รวมของพลังงานและความสมดุลของร่างกาย ที่ละเอียดอ่อน ในปัจจุบันได้นำศาสตร์นี้ ไปใช้ในการบำบัดร่างกายเพื่อให้ร่างกายอยู่ในสภาวะะที่สมดุล ในทางวิทยาศาสตร์ ที่ต้องการการพิสูจน์ ในศาสตร์นี้ ยังไม่ชัดเจน ศาสตร์ของจักระทั้ง 7 จึงให้มองเห็นภาพ ที่อธิบายจักระทั้งหลาย ด้วยสีในระดับจักระต่างๆ อวัยวะของร่างกายในระดับจักระทั้งเจ็ด สภาวะอารมณ์ในแต่ละระดับของจักระ หิน ท่าโยคะ อาหาร เสียงและดนตรี เป็นต้น”
อีกมุมมองหนึ่งที่ผู้เขียน ให้ความสำคัญในการทำความเข้าใจจักระ ทั้ง7 เป็นเสมือนเครื่องมือและอีกช่องทางของการฝึกปฏิบัติจิตของตัวเราเอง เพื่อให้เราเข้าถึงพลังงานของความเป็นจิตวิญญาณ(Spirituality) มีความตื่นรู้ ทำให้เราเข้าใจความละเอียดและเติมเต็มของพลังงานในร่างกายของเรา จากการฝึกปฏิบัติและศึกษาจักระทั้งเจ็ดนี้
จักระ ทั้ง เจ็ด มีผู้ให้คำนิยาม มากมาย จากผู้รู้ทั้งหลายและผู้ฝึกปฏิบัติ ผู้เขียนขอยกตัวอย่างของคำนิยาม จักระทั้งเจ็ด ใจความว่า

“จักระ เป็นภาษาสันสกฤต หมายถึง กงล้อ จักระคือ ศูนย์รวมพลังงานภายในร่างกายของมนุษย์ หรือ พลังแฝงที่มีอยู่ในทุก ๆ สิ่ง เป็นศูนย์พลังงานอันละเอียดอ่อน (กายละเอียด) ซึ่งมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป เช่น จักระ ชี่ ลมปราณ เป็นต้น ในอินเดียนั้น พวกโยคีเชื่อว่า จักระที่สำคัญของมนุษย์ มีอยู่ด้วยกัน 7 ตำแหน่ง
ในแต่ละตำแหน่งมีจุดกำเนิดที่แตกต่างกัน และดูแลควบคุมการทำงานของอวัยวะส่วนต่าง ๆ ภายในร่างกายของคนเราให้ทำงานเป็นปรกติ และการหมุนวนของจักระ เกิดจากลมหายใจเข้าออก ที่หมุนเวียนอยู่ในร่างกายตลอดเวลา
จักระจะหมุนตามเข็มนาฬิกาด้วยความถี่ที่แตกต่างกัน ซึ่งจะเชื่อมโยงและสัมพันธ์กับระบบการทำงานของอวัยวะที่อยู่บริเวณใกล้เคียง เพื่อให้เกิดความสมดุล”
อ้างอิงจาก https://www.bkkvariety.com/4534
และอีกเว็บไซต์หนึ่งได้ ให้คำนามของจักระ ทั้ง 7 เช่นกัน ใจความว่า
“Some spiritual views hold that our body is more than just physical and mental, it’s also an energetic system called chakras. Chakra is a Sanskrit word that means wheel or cycle. There are seven main chakras situated along the spine, from the base of your spine to the crown of your head. This age-old belief has become integrated into many New Age styles of thought.
Chakras are thought to provide subtle energy that helps your organs, mind, and intellect work at their best level. Chakras and spiritual energy have not been thoroughly examined in medical studies, but they may help you think about your own mind and body like any religion or belief.”

“มุมมองทางจิตวิญญาณบางอย่างถือได้ว่าร่างกายของเราเป็นมากกว่าแค่ร่างกายและจิตใจ แต่ยังเป็นระบบที่มีพลังที่เรียกว่าจักระด้วย จักระ เป็นภาษาสันสกฤต แปลว่า วงล้อ หรือ วัฏจักร มีเจ็ดจักระหลักตั้งอยู่ตามกระดูกสันหลัง ตั้งแต่โคนกระดูกสันหลังจนถึงกระหม่อม ความเชื่อที่เก่าแก่นี้ได้รวมเข้ากับรูปแบบความคิดยุคใหม่มากมาย
คิดว่าจักระจะให้พลังงานอันละเอียดอ่อนที่ช่วยให้อวัยวะ จิตใจ และสติปัญญาของคุณทำงานในระดับที่ดีที่สุด จักระและพลังงานทางจิตวิญญาณยังไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดในการศึกษาทางการแพทย์ แต่อาจช่วยให้คุณนึกถึงจิตใจและร่างกายของตนเองได้เหมือนกับศาสนาหรือความเชื่อใดๆ”
อ้างอิงจาก https://www.webmd.com/balance/what-are-chakras

จุดกำเนิดของจักระ ทั้ง 7 ในสมัยโบราณ ที่ยึดถือและฝึกปฏิบัติ จนถึงยุคสมัยปัจจุบัน ในการนำไปปรับฝึกเพื่อให้เข้ายุคสมัยที่เปลี่ยนไป และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เช่น สภาพแวดล้อม ส่วนใหญ่ที่รายล้อมไปด้วย เทคโนโลยี บางครั้งมนุษย์เราตกหลุมพลางของคำว่าเทคโนโลยี ที่สามารถดึงดูดความสนใจและโน้มน้าวจิตใจเราอยู่ในภวังค์ของเทคโนโลยีที่มากเกินไป
เรียนรู้และเข้าใจจักระ เป็นการดึงสภาวะของจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ กลับมาอยู่ในสภาวะหรือกลับมาเพื่อรับรู้ถึงความสมดุลของร่างกาย ความสมดุลของจิตใจ ที่เชื่อมต่อกับความสมดุลของธรรมชาติ เพราะหากเราไม่มีจุดสมดุลของร่างกาย เราจะไม่รู้ถึงความมากน้อยแค่ไหนที่เรียกว่าจุดสมดุล จนบางครั้งเรา เสพสิ่งที่เกินสมดุล จนทำให้เราเกิดสภาวะที่ผิดปกติทางอารมณ์ ความรู้สึก ร่างกายอ่อนแอ
ในบทความนี้ จะให้คำอธิบาย เบื้องต้นของจักระทั้ง เจ็ด ให้มองเห็นในทางกายภาพ สภาวะในแต่ละระดับ ดังนี้

1. The Root Chakra
เป็นรากฐานของระบบจักระ และเป็นพื้นฐานของพลังชีวิต ชื่อทางสันสกฤต คือ มูลธาร (Muladhara) ตำแหน่งในร่างกาย อยู่ตรงปลายสุดของกระดูกสันหลัง ความสัมพันธ์ทางกายภาพที่สัมผัสได้ สี คือ สีแดง
องค์ประกอบของจักระ ในระดับของมูลธาร คือ โลก(Earth) ที่เกี่ยวข้องกับความเป็นธรรมชาติ การปลูกฝังจากรากฐานของแต่ละกลุ่มคน เผ่าพันธุ์ เป็นสภาวะในช่วงวัยเด็กที่ถูกถ่ายทอดจากครอบครัว
บรรพบุรุษ ที่ตระหนักถึงพื้นที่ปลอดภัย ความอยู่รอด ความมั่นคง เป็นการเชื่อมต่อโลกใบนี้ ในการดำรงชีวิต การตอบสนองและปฏิสัมพันธ์กับผู้สืบทอดทางครอบครัว ซึมซับ และถือปฏิบัติกันมายาวนาน

2. The Sacral Chakra
เป็นศูนย์กลางเกี่ยวกับพลังงานทางเพศ ชื่อสันสกฤต คือ สวาธิษฐาน (Svadhisthana) ตำแหน่งในร่างกายจะอยู่เหนืออวัยวะเพศ ต่ำกว่าหน้าท้องประมาณสองนิ้ว ในส่วนของความสัมพันธ์ทางกายภาพที่มองเห็นได้ อย่างสีที่สัมพันธ์กันคือ สีส้ม องค์ประกอบของจักระระดับสวาธิษฐาน
คือ น้ำ(Water) ชั้นจักระนี้ สัมพันธ์ในทางอารมณ์ ความรู้สึกที่แสดงถึง ความคิดสร้างสรรค์ ความสนุกสนาน ความสุข ความเห็นอกเห็นใจ ความสัมพันธ์ทางเพศ เป็นการตอบสนองและปฏิสัมพันธ์ทางอารมณ์ความรู้สึก จิตใจ และร่างกาย ระหว่างเรากับคนอื่น

3.The Solar Plexus
เป็นจุดศูนย์กลางของร่างกาย ควบคุมระบบทางเดินอาหารทั้งหมด ทั้งการย่อยอาหารและการขับถ่ายของเสีย ชื่อสันสกฤต คือ มณีปุระ (Manipura) ตำแหน่งในร่างกาย อยู่ตรงไขสันหลังตรงจุดสะดือ ความสัมพันธ์ทางกายภาพที่เรามองเห็นได้
สีที่สัมพันธ์ในชั้นจักระนี้ คือ สีเหลือง องค์ประกอบของจักระระดับ มณีปุระ คือ ไฟ (Fire) ชั้นจักระนี้ในความสัมพันธ์ทางอารมณ์ความรู้สึกที่สื่อถึงความนับถือตัวเอง เห็นคุณค่าในตัวเอง แสดงจุดยืนของตัวเอง เป็นการแสดงปฏิสัมพันธ์ตัวเรากับจิตใจและร่างกายของเราเอง

4.The Heart
เป็นศูนย์รวมของความรักที่แท้จริง ความเมตตากรุณา ความเสียสละ ชื่อสันสกฤต คือ อนาหตะ (Anahata) ตำแหน่งในร่างกาย จะอยู่ในระดับเดียวกันกับหัวใจ อวัยวะที่สัมพันธ์เป็นระดับจักระที่เชื่อมต่อกัน คือ หัวใจ ปอด ไหล่ แขน มือ เต้านม ระบบกล้ามเนื้อ ระบบต่อมน้ำเหลือง
ความสัมพันธ์ทางกายภาพที่เรามองเห็นภาพได้ อย่างสีที่สัมพันธ์กันคือ สีเขียว องค์ประกอบของจักระในระดับอนาหตะนี้ คือ อากาศ(Air) ในส่วนของความสัมพันธ์ทางอารมณ์และความรู้สึกเป็นระดับที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง
พลังงานที่แสดงออกทางกายภาพ(Physical) และมองเห็น(จักระระดับ1-3) กับพลังงานที่แสดงอยู่ภายในร่างกาย(Non-Phtsical)- จักระระดับ 5-7 คือ พลังความเป็นจิตวิญญาณ(Spiritual) สื่อถึงการแสดงความรัก รักตัวเอง รักผู้อื่น การให้อภัยและเอื้ออาทรผู้อื่น

5.The Throat Chakra
เป็นจักระที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ ชื่อสันสกฤต คือ วิสุทธิ (Vishuddhi) ตำแหน่งในร่างกาย อยู่ตรงต่อมไธรอยด์ สีที่สัมพันธ์กันคือสีน้ำเงิน เครือข่ายทางกายภาพของระบบ ( Cervical Plexus)
คือ ต่อมไทรอยด์ คอ แขน ปาก ลิ้น หน้า มือ ไหล่ องค์ประกอบของจักระในระดับ วิสุทธิ คือ เสียง และดนตรี สำหรับความสัมพันธ์ทางกายภาพที่เรามองเห็นได้ คือ การแสดงออก ด้วยการสื่อสารผ่านเสียง การแสดงออกถึงตัวตนของเราจริงๆ อย่างเป็นธรรมชาติ
หรือการสื่อสารที่แสดงถึงความจริงใจ ที่จะให้ความเป็นธรรมชาติของตนเอง มีความสุขกับตัวเราเอง เพราะเราได้แสดงตัวตนของเราแล้ว ในส่วนของความสัมพันธ์ทางอารมณ์ ความรู้สึก คือ ความจริงใจ ความจริง

6.The Third Eye Chakra
เป็นจักระที่เปรียบเหมือนดวงตาแห่งปัญญา ชื่อสันสกฤต คือ อาชญะ (Ajna) ตั้งอยู่ตรงกลาง หน้าผาก สีที่สัมพันธ์กันคือสีคราม เครือข่ายทางกายภาพของระบบ คือ ต่อม pineal & pituitary(ไพเนียลและต่อมใต้สมอง) การมองเห็น การได้ยิน ความคิด
องค์ประกอบของจักระในระดับ อาชนะ คือ แสง (Light) หรือ บางบทความให้นิยามเป็น อีเธอร์(Ether) ความสัมพันธ์ทางกายภาพที่มองเห็นได้คือ
การแสดงออกถึงตัวตนของตัวเองที่เป็นอย่างธรรมชาติ ที่ปราศจากการยึดมั่นถือมั่น ในส่วนของความสัมพันธ์ทางอารมณ์ความรู้สึก คือ ความรู้สึกของการหยั่งรู้ (intuition) มีสติทุกๆ ชั่วขณะอารมณ์จากภายนอกและภายในจิตใจเราเอง จักระในระดับนี้ค่อนข้างลึกซึ้งมาก ถึงพลังงานความเป็นจิตวิญญาณ ที่ต้องหมั่นฝึกปฏิบัติ เพื่อในกายและใจ ได้ตระหนักกับสิ่งที่เกิดขึ้น

7.The Crown Chakra
เป็นศูนย์กลางควบคุมทุกจักระในร่างกาย เป็นจุดรับพลังจักรวาลและกระจายไปทั่วร่างกายชื่ อสันสกฤต คือ สหัสราระ( Sahasrara) ตำแหน่งสูงสุดกลางกระหม่อม ส่วนสีที่สัมพันธ์กันคือสีม่วง เครือข่ายทางกายภาพของระบบ (Limbic Areas)
คือ สมองส่วนกลาง ซึ่งมีความสัมพันธ์ทางกายภาพที่สังเกตเห็นภายนอกคือ ความสุขุม รอบคอบ ตระหนักรู้ ความมีไหวพริบ อีกมิติหนึ่งที่เราไม่สามารถมองเห็นได้แต่ตัวตนของเราสัมผัสได้ภายในคือ การหยั่งรู้(Intuition) ที่ลึกซึ้งมากขึ้น พลังงานความรู้สึกภายใน ของจักะในระดับนี้
เป็นดั่งความรู้สึกปล่อยวางจาก ความคิดที่เรียกว่า การยึดมั่นถือมั่นในจิต การครุ่นคิดต่างๆ มี่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ จักระระดับนี้ถือได้ว่าจิตใจเราเหมือนเคลียร์ทุกอย่าง ตั้งแต่จักระดับล่างสุด จนถึงระดับที่หกคืออาชญะ
จักระทั้ง 7 เป็นจักระหลัก จาก 114 จักระ ผู้เขียนให้มุมมอง จักระเป็นเสมือนเครื่องมือหนึ่งที่จะให้เราได้เป็นไอเดียและช่องทางเพื่อเติมเต็มและทำความเข้าใจที่จะให้ตัวเราเข้าถึงและสัมผัสพลังงานของ spirituality (ความเป็นจิตวิญญาน)ให้มากที่สุด ซึ่งทุกเครื่องมือมีเป้าหมาเดียวกันคือ การหยั่งรู้ ตระหนักในพลังงาน ภายในของเราเพื่อที่จะขจัดความไม่สบายใจทั้งหลาย การให้พื้นที่ว่างของพลังงานที่มาจากแก่นแท้จริงของตัวเอง ตัวตนของตัวเราเอง ออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ

และเช่นกัน การที่จะสัมผัสจักระทั้ง 7 ได้ ต้องอาศัยการฝึก การทำสมาธิ การฝึกที่เราอยู่กับตัวเอง อาศัยสิ่งที่มองเห็นทางกายภาพ ผ่านเสียงดนตรี การเคลื่อนไหว เช่น โยคะ การเต้น เป็นต้น การมองเห็นด้วยสี อาจจะเป็น หิน อาหาร สมุนไพร เป็นต้น (รายละเอียดเบื้องต้นของจักระทั้ง 7 ผู้เขียนจะอธิบายอีก 7 ตอนของแต่ละจักระต่อไป)
บางครั้งสถานการณ์ และสภาพแวดล้อม ที่เราอยู่อาจจะไม่เอื้ออำนวย หากเราลองเปิดมุมมองให้ตัวเอง และนำไปปรับใช้กับตัวเอง ให้ตระหนักว่า จักระ ทั้ง 7 เป็นเสมือนเครื่องมือหนึ่งของร่างกายเรา ที่มีไว้ปกป้อง ต่อสู้ จากพลังงานภายนอกที่เข้ามากระทบพลังงานภายใน รวมทั้งพลังงานภายในของจิตใจเราเองเช่นกัน หากเราเจอสถานการณ์ที่ทำให้พลังงานภายในของเราชะงัก เมื่อพลังงานชะงัก ความไม่สบายใจจะเข้ามาแทนที่ ทันที
Writer : Better Call Nika
แหล่งอ้างอิง
Comments